พฤศจิกายน ๒๕๔๘, ที่ทำการรับ-ส่งโทรเลขนครหลวงใต้
ใกล้ค่ำ ที่ชั้น ๓ บริเวณปีกซ้ายของตึกที่ทำการไปรษณีย์กลาง พรินเตอร์ยังคงส่งเสียงแกรกกรากท่ามกลางความเงียบและแสงรำไรที่สาดลอดเข้ามา ทางช่องหน้าต่างของที่ทำการรับ-ส่งโทรเลขนครหลวงใต้
เจ้าหน้าที่ยังคงทำงานกันต่อไปแม้จะเลยเวลาทำงานปรกติมานานแล้ว...
บนชั้น ๔ ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์ถ่ายทอดโทรเลข ก็มีสภาพไม่แตกต่างกัน
จากที่เคยมีเจ้าหน้าที่นับร้อยผลัดเปลี่ยนกันเข้ากะปฏิบัติงานตลอด ๒๔ ชั่วโมง กงล้อของยุคสมัยก็ทำให้วันนี้เหลือพวกเขาอยู่เพียง ๔ คน เสียงก๊อกแก๊กของเครื่องส่งรหัสมอร์สและโทรพิมพ์หายไป เหลือเพียงเสียงเคาะแป้นอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์
ภารกิจยามเย็นของพวกเขาไม่มีอะไรมากไปกว่าการเคลียร์โทรเลขฉบับที่คั่ง ค้างอยู่ในระบบชุมสายโทรเลขอัตโนมัติอันเนื่องมาจากปัญหาขัดข้องทั้งหลาย (สายเสีย เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้รับโทรเลขปลายทางเสีย ฯลฯ)
“พวกเราชินแล้ว” เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งเอ่ยขึ้น
“เผลอๆ โทรเลขอาจจะเลิกพร้อมผมเกษียณกระมัง” เจ้าหน้าที่อีกท่านหนึ่งกล่าวติดตลก
เจ้าหน้าที่อีกคนหันมองคอมพิวเตอร์ราคา ๒๐ ล้านที่ตั้งอยู่ในห้องชุมสายโทรเลขอัตโนมัติ แล้วเปรยว่า “เหมือนขับรถเบนซ์ไปจ่ายตลาด”
เขาหมายถึงการที่รัฐต้องลงทุนกับระบบนี้มหาศาลแต่กลับมีคนใช้เพียงหยิบ มือ แต่ละปี คอมพิวเตอร์ขนาดเท่าห้องประชุมเล็กๆ นี้มีค่าบำรุงรักษาหลายล้านบาท ขณะที่รายรับกลับลดน้อยลงจนน่าตกใจ
ที่มา:http://www.sarakadee.com/web/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=514&page=2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น